องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
มาตรา 341 ประมวลกฎหมายอาญา
“ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังกล่าว ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของบุคคลนั้น หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้บุคคลนั้นหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง
ความผิดฐานฉ้อโกงมี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
1. องค์ประกอบภายนอก (องค์ประกอบทางพฤติการณ์)
หมายถึง การกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีลักษณะดังนี้
• การหลอกลวงผู้อื่น
• ใช้ข้อความอันเป็นเท็จ หรือ
• ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
• ผลของการหลอกลวง
• ทำให้บุคคลที่ถูกหลอก มอบทรัพย์สิน ให้แก่ผู้กระทำ หรือบุคคลที่สาม
• หรือทำให้บุคคลนั้น ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ
2. องค์ประกอบภายใน (เจตนา)
• ผู้กระทำต้องมี เจตนาโดยทุจริต
• มีความมุ่งหมายเพื่อให้ได้ทรัพย์สินโดยมิชอบ
3. องค์ประกอบเชิงกฎหมาย
• ต้องเป็นการกระทำที่ ฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย
• มีโทษทางอาญาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 341
ตัวอย่างพฤติกรรมที่เข้าข่ายฉ้อโกง
• ขายสินค้าหรือบริการโดยให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับคุณภาพหรือคุณสมบัติ
• หลอกให้ลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง (แชร์ลูกโซ่)
• แอบอ้างเป็นบุคคลอื่นเพื่อขอรับเงินหรือทรัพย์สิน
ข้อแตกต่างระหว่าง “ฉ้อโกง” และ “ยักยอกทรัพย์”
หัวข้อ | ฉ้อโกง (มาตรา 341) | ยักยอกทรัพย์ (มาตรา 352) |
ลักษณะการกระทำ | หลอกลวงให้ผู้อื่นมอบทรัพย์ | ได้ครอบครองทรัพย์โดยชอบ แต่ไม่นำส่งคืน |
วิธีการ | ใช้ข้อความเท็จหรือปกปิดความจริง | ใช้สิทธิในทรัพย์สินที่ได้รับมาโดยมิชอบ |
ตัวอย่าง | หลอกให้โอนเงินโดยอ้างว่าลงทุน | ลูกจ้างนำเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว |
สรุป
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 มี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. พฤติการณ์ภายนอก – ต้องมีการหลอกลวงจนทำให้เกิดการโอนทรัพย์สินหรือเปลี่ยนแปลงเอกสารสิทธิ
2. เจตนา – ผู้กระทำต้องมีเจตนาโดยทุจริต
3. ผิดกฎหมาย – เป็นการกระทำที่มีบทลงโทษทางอาญา
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำมาตรา 341 ไปใช้ในกรณีต่าง ๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ!