คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 2398/2562
การที่จะได้สิทธิในทางพิพาทเป็นภาระจํายอมโดยอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๔๐๑ ประกอบมาตรา ๑๓๘๒ นั้นต้องเป็นการใช้ทางพิพาท โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาให้ทางพิพาทนั้นตกเป็นภาระจํายอม และได้ใช้ติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี จึงจะให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจํายอมได้ การใช้ทางพิพาทของ ส. ฉ. และโจทก์รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของโจทก์ เป็นการใช้ในลักษณะพึ่งพาอาศัยและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอันเป็นการ สะท้อนถึงสภาพวิถีชีวิตที่แท้จริงของการอยู่ร่วมกันของคนชนบทว่า ตามปกติแล้วจะใช้ที่ดินข้างเคียงเป็นทางผ่านได้ โดยการถือวิสาสะอาศัย ความเกี่ยวพันในทางเครือญาติหรือความคุ้นเคยเป็นประการสําคัญซึ่งเป็น การเอื้อเฟื้อเอื้ออาทรต่อกันโดยไม่ต้องขออนุญาต ส่วนการที่บุคคลอื่น ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเป็นเครือญาติ เพื่อนบ้าน คนรู้จักของโจทก์ และผู้รับจ้าง ทํางานให้แก่โจทก์ที่มีความจําเป็นต้องใช้ทางเข้าออกที่ดินซึ่งเป็นที่ไร่ ที่นา และที่สวนของโจทก์ ใช้ทางพิพาทด้วย โดยไม่ปรากฏว่ามีประชาชนทั่วไป จากหมู่บ้านและตําบลอื่นมาใช้ทางพิพาทด้วย การใช้ทางพิพาทของบุคคล ดังกล่าวก็มีลักษณะเป็นการใช้ทางพิพาทโดยการถือวิสาสะเช่นเดียวกับโจทก์ แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผย แต่ไม่ใช่เป็นการ ใช้ทางด้วยเจตนาที่จะให้ทางพิพาทนั้นตกเป็นภาระจํายอม หรือหากโจทก์ ใช้ทางพิพาทโดยเข้าใจว่าเป็นทางสาธารณะตลอดมา แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาท โดยความสงบและโดยเปิดเผย แต่ก็ไม่ใช่เป็นการใช้ทางด้วยเจตนาที่จะให้ ทางพิพาทนั้นตกเป็นภาระจํายอมเช่นเดียวกัน ส่วนการที่โจทก์อ้างว่าเป็น ผู้ก่อสร้างทางพิพาทก็เป็นไปเพื่อความสะดวกในการใช้ทางพิพาทของโจทก์ เท่านั้น หาใช่เป็นการแสดงเจตนาที่จะใช้ทางพิพาทอย่างเป็นปรปักษ์กับ จําเลยทั้งสองด้วยเจตนาที่จะให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจํายอมแต่อย่างใดไม่ แม้โจทก์ใช้ทางพิพาทผ่านที่ดินของจําเลยทั้งสองเป็นเวลานานกว่า ๑๐ ปี ทางพิพาทก็ไม่ตกเป็นภาระจํายอมตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๔๐๑ ประกอบ มาตรา ๑๓๘๒
สรุป ถ้าต้องการครอบครองปรปักษ์ ต้องมีองค์ประกอบง่ายๆ 3 อย่าง
1ครอบครองที่ดิน ( ที่ดินมีโฉนด) ของผู้อื่น
2 โดยสงบ เปิดเผย และเจตนาเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว
3 ระยะเวลา ครบ 10 ปี
ถ้าทำครบสามข้อก็ติดต่อทนายให้ยื่นคำร้องต่อศาลได้เลย