ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 1304/2562
ความผิดของจำเลยฐานลักทรัพย์เอาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ( เบิกถอนเงินอัตโนมัติหรือเอทีเอ็ม) ของผู้เสียหายไปในเวลากลางคืนและฐานลักทรัพย์โดยใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์เบิกถอนเงินสดจากบัญชีของผู้เสียหายในเวลากลางคือน ตาม ป.อ.มาตรา ๓๓๕ (๑)วรรคหนึ่ง ปรากฏตามคำร้องขอให้ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฏีกาและตามฏีกาของจำเลยซึ่งโจทก์ไม่ยื่นคำแก้ฏีกาโต้แย้งเป็นอื่นว่าจำเลยเป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับ ส. ผู้เสียหาย ซึ่งตาม ป.อ. มาตรา๗๑ บัญญัติให้ความผิดนี้เป็นฐานหนึ่ง ( ในมาตรา ๓๓๔ ถึงมาตรา ๓๓๖ ) ที่ให้เป็นความผิดอันยอมความได้ คดีนี้เมื่อในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหหายทำหนังสือไม่ติดใจเอาความทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาแก่จำเลยอีกต่อไป จึงเป็นการยอมความคดีอาญาก่อนคดีถึงที่สุด ตาม ป.วิ.อ มาตรา ๓๕ วรรสอง ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไป ตามมาตรา ๓๙ ( ๒ )